ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เทคนิค และคำแนะนำ สำหรับการสร้างรายได้บน Facebook

"Kcreated Coach: คลังความรู้สำหรับครีเอเตอร์ ร้านค้า ผู้ให้บริการ ผู้ใช้งาน Facebook และผู้สร้างรายได้" "เทคนิคและคำแนะนำมากมายสำหรับการใช้งาน Facebook อย่างมีประสิทธิภาพ" "เรียนรู้วิธีสร้างคอนเทนต์ โปรโมทธุรกิจ และสร้างรายได้บน Facebook" "Kcreated Coach: แหล่งข้อมูลสำหรับทุกคนบน Facebook" 5 วิธีการยืนยันตัวตน บน ทางรัฐ "โครงการดิจิทัลวอเลท" อัพเดทล่าสุด กค.67 ธียืนยันตัวตนสำหรับแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" เพื่อเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอเลท มีหลายช่องทางที่สะดวกและง่ายดายสำหรับการยืนยันตัวตนบนแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" ดังนี้: 1. ผ่านแอปพลิเคชัน D.DOPA: ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนใช้งานแอป D.DOPA ไว้แล้ว สามารถยืนยันตัวตนผ่านแอป "ทางรัฐ" ได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องดำเนินการเพิ่มเติม เพียงกด "เข้าสู่ระบบด้วย D.DOPA" เท่านั้น 2. สแกนบัตรประชาชนและใบหน้า: ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" บนมือถือ เปิดแอปและเลือก "สมัครสมาชิก" เลือก "สมัครด้วยบัตรประชาชน" ศึกษาเงื่อนไขและกดยอมรับ สแกนบัตรประชา...

ทำไม ทำคอนเทนต์บนเฟส แต่ไม่ค่อยมีคนเข้ามาดู



Kcreated Coach : ทำไม ทำคอนเทนต์บนเฟส แต่ไม่ค่อยมีคนเข้ามาดู

โพสต์หรือคลิปวิดีโอบนเพจเฟสบุ๊คไม่ปรากฏอาจมีสาเหตุได้หลายประการ ดังนี้

  • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว โพสต์หรือคลิปวิดีโออาจถูกตั้งค่าความเป็นส่วนตัวเป็น "เฉพาะเพื่อน" หรือ "เฉพาะผู้ติดตาม" จึงทำให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่เพื่อนหรือผู้ติดตามของเพจไม่สามารถมองเห็นได้
  • เพจถูกปิดใช้งาน หากเพจถูกปิดใช้งาน โพสต์หรือคลิปวิดีโอทั้งหมดของเพจก็จะไม่สามารถมองเห็นได้
  • เพจถูกรายงาน หากเพจถูกรายงานโดยผู้ใช้อื่นด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น เนื้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ เนื้อหาไม่เหมาะสม เนื้อหาหลอกลวง เป็นต้น เพจอาจถูกระงับชั่วคราวหรือถาวร ซึ่งจะทำให้โพสต์หรือคลิปวิดีโอทั้งหมดของเพจไม่สามารถมองเห็นได้
  • เนื้อหาไม่น่าสนใจ เนื้อหาของโพสต์หรือคลิปวิดีโออาจไม่น่าสนใจหรือเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายของเพจ จึงทำให้ไม่ได้รับความสนใจจากผู้ชมและไม่มีการแชร์ต่อ ทำให้โพสต์หรือคลิปวิดีโอไม่ปรากฏในผลการค้นหาหรือส่วนแนะนำของเฟสบุ๊ค
หากโพสต์หรือคลิปวิดีโอของคุณไม่ปรากฏ ให้ตรวจสอบการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของเพจ หากตั้งค่าความเป็นส่วนตัวเป็น "สาธารณะ" อยู่แล้ว ให้ตรวจสอบว่าเพจของคุณถูกปิดใช้งานหรือถูกรายงานหรือไม่ หากเพจไม่ได้ถูกปิดใช้งานหรือถูกรายงาน ให้พิจารณาว่าเนื้อหาของโพสต์หรือคลิปวิดีโอน่าสนใจหรือไม่ หากเนื้อหาน่าสนใจ ให้ลองแชร์โพสต์หรือคลิปวิดีโอไปยังกลุ่มเป้าหมายของคุณผ่านช่องทางอื่นๆ เช่น อีเมล เว็บไซต์ หรือโซเชียลมีเดียอื่นๆ

นอกจากนี้ เฟสบุ๊คยังมีอัลกอริทึมในการกำหนดว่าโพสต์หรือคลิปวิดีโอใดจะปรากฏให้ผู้อื่นเห็นได้ อัลกอริทึมนี้จะพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น เนื้อหาของโพสต์หรือคลิปวิดีโอ ความเกี่ยวข้องของโพสต์หรือคลิปวิดีโอกับผู้ชม ปฏิสัมพันธ์ของผู้ชมกับโพสต์หรือคลิปวิดีโอก่อนหน้านี้ เป็นต้น หากโพสต์หรือคลิปวิดีโอของคุณได้รับการมีส่วนร่วมจากผู้ชม เช่น การกดไลค์ การแชร์ การคอมเมนต์ เป็นต้น อัลกอริทึมก็จะยิ่งมีโอกาสทำให้โพสต์หรือคลิปวิดีโอของคุณปรากฏให้ผู้อื่นเห็นได้มากขึ้น

Coach k



สาเหตุที่โพสต์หรือคลิปวิดีโอของคุณไม่ปรากฏ อาจเป็นไปได้ดังนี้

  • เพจของคุณเพิ่งสร้างใหม่ เพจใหม่อาจต้องใช้เวลาในการรวบรวมผู้ติดตามและสร้างการมีส่วนร่วมก่อนจึงจะปรากฏในผลการค้นหาหรือส่วนแนะนำของเฟสบุ๊ค
  • เนื้อหาของคุณยังไม่น่าสนใจหรือเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายของคุณมากพอ เนื้อหาของคุณอาจยังไม่น่าสนใจหรือเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายของคุณมากพอ จึงทำให้ไม่ได้รับความสนใจจากผู้ชมและไม่มีการแชร์ต่อ
  • อัลกอริทึมของเฟสบุ๊คยังไม่รู้จักเพจของคุณ อัลกอริทึมของเฟสบุ๊คอาจยังไม่รู้จักเพจของคุณมากพอ จึงยังไม่นำโพสต์หรือคลิปวิดีโอของคุณไปแสดงให้ผู้อื่นเห็น
หากต้องการให้โพสต์หรือคลิปวิดีโอของคุณปรากฏให้ผู้อื่นเห็นได้มากขึ้น คุณสามารถลองทำดังนี้

  • สร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ เนื้อหาของคุณควรมีความน่าสนใจและเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ เพื่อให้ผู้ชมเกิดการมีส่วนร่วม เช่น การกดไลค์ การแชร์ การคอมเมนต์ เป็นต้น
  • ใช้แฮชแท็กอย่างเหมาะสม แฮชแท็กจะช่วยให้ผู้ชมที่สนใจในหัวข้อเดียวกันสามารถค้นหาโพสต์หรือคลิปวิดีโอของคุณได้ง่ายขึ้น
  • โปรโมทเพจของคุณผ่านช่องทางอื่นๆ การโปรโมทเพจของคุณผ่านช่องทางอื่นๆ เช่น อีเมล เว็บไซต์ หรือโซเชียลมีเดียอื่นๆ จะช่วยให้คุณรวบรวมผู้ติดตามและสร้างการมีส่วนร่วมกับเพจของคุณได้มากขึ้น
นอกจากนี้ คุณยังสามารถตรวจสอบว่าการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของเพจของคุณถูกต้องหรือไม่ ว่าเพจของคุณถูกปิดใช้งานหรือถูกรายงานหรือไม่ หากตั้งค่าความเป็นส่วนตัวเป็น "สาธารณะ" อยู่แล้ว และเพจของคุณไม่ได้ถูกปิดใช้งานหรือถูกรายงาน ก็แสดงว่าสาเหตุน่าจะมาจากปัจจัยอื่นๆ ที่กล่าวมาข้างต้น

หากคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถติดต่อฝ่ายสนับสนุนของเฟสบุ๊คได้


การแชร์คอนเทนต์ไปยังกลุ่มและโปรไฟล์ Facebook ของคุณเองอาจถูกมองว่าเป็นการปั๊มโพสต์หากคุณทำบ่อยเกินไป 

      แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดคือแชร์คอนเทนต์ของคุณไปยังกลุ่มและโปรไฟล์ของคุณเป็นครั้งคราวเท่านั้น ตัวอย่างเช่น คุณอาจแชร์คอนเทนต์ของคุณไปยังกลุ่มที่เกี่ยวข้องทุกสัปดาห์หรือสองสัปดาห์ครั้ง และแชร์คอนเทนต์ของคุณไปยังโปรไฟล์ของคุณของคุณทุกเดือนหรือสองเดือนครั้ง

นอกจากนี้ คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคอนเทนต์ที่คุณแชร์นั้นมีคุณภาพสูงและเกี่ยวข้องกับกลุ่มหรือโปรไฟล์ที่คุณแชร์ไป คอนเทนต์ที่มีคุณภาพสูงและเกี่ยวข้องกับกลุ่มหรือโปรไฟล์ของคุณมีโอกาสถูกมองเห็นและมีส่วนร่วมมากกว่าคอนเทนต์ที่มีคุณภาพต่ำหรือไม่เกี่ยวข้อง

ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับบางประการในการแชร์คอนเทนต์ของคุณไปยังกลุ่มและโปรไฟล์ Facebook ของคุณโดยไม่ถูกมองว่าเป็นการปั๊มโพสต์:

  • แชร์คอนเทนต์ของคุณเป็นครั้งคราวเท่านั้น
  • แชร์คอนเทนต์ของคุณไปยังกลุ่มที่เกี่ยวข้อง
  • แชร์คอนเทนต์ของคุณไปยังโปรไฟล์ของคุณของคุณ
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคอนเทนต์ที่คุณแชร์นั้นมีคุณภาพสูงและเกี่ยวข้องกับกลุ่มหรือโปรไฟล์ที่คุณแชร์ไป
หากคุณพบว่าคุณกำลังแชร์คอนเทนต์ของคุณไปยังกลุ่มและโปรไฟล์ของคุณเองมากเกินไป คุณอาจต้องการพิจารณาใช้เครื่องมือหรือบริการของบุคคลที่สามเพื่อช่วยคุณจัดการการแชร์คอนเทนต์ของคุณ เครื่องมือหรือบริการเหล่านี้สามารถช่วยคุณกำหนดเวลาการแชร์คอนเทนต์ของคุณและติดตามการมีส่วนร่วมของโพสต์ของคุณ

ต่อไปนี้เป็นเครื่องมือและบริการของบุคคลที่สามบางรายการที่คุณสามารถใช้ได้เพื่อช่วยคุณจัดการการแชร์คอนเทนต์ของคุณ:

  • Buffer
  • Hootsuite
  • SocialPilot
  • Sprout Social
  • CoSchedule
คุณยังสามารถใช้เครื่องมือหรือบริการของบุคคลที่สามเพื่อช่วยคุณสร้างและติดตามแคมเปญโซเชียลมีเดียของคุณ แคมเปญโซเชียลมีเดียสามารถช่วยให้คุณกำหนดเป้าหมายคอนเทนต์ของคุณไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งสามารถช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการถูกมองว่าเป็นการปั๊มโพสต์


อัลกอริทึมของ Facebook ณ ปัจจุบันวันที่ 6 มกราคม 2567 
     มีการเปลี่ยนแปลงในการใช้งาน โดยเพจหรือโปรไฟล์ที่มีการสร้างคอนเทนต์ขึ้นมาเป็นจำนวนมากและมีการเผยแพร่ออกไปเป็นจำนวนมาก ระบบจะมองว่าเป็นการปั๊มโพสต์ ซึ่งอาจส่งผลให้คอนเทนต์ของคุณมีโอกาสถูกมองเห็นน้อยลงหรืออาจถูกจำกัดการมองเห็นได้

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงการถูกมองว่าเป็นการปั๊มโพสต์คือ การสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพสูงและเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ จากนั้นจึงแชร์คอนเทนต์ของคุณไปยังกลุ่มและโปรไฟล์ของคุณเป็นครั้งคราวเท่านั้น ตัวอย่างเช่น คุณอาจแชร์คอนเทนต์ของคุณไปยังกลุ่มที่เกี่ยวข้องทุกสัปดาห์หรือสองสัปดาห์ครั้ง และแชร์คอนเทนต์ของคุณไปยังโปรไฟล์ของคุณของคุณทุกเดือนหรือสองเดือนครั้ง

นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้เครื่องมือหรือบริการของบุคคลที่สามเพื่อช่วยคุณจัดการการแชร์คอนเทนต์ของคุณ เครื่องมือหรือบริการเหล่านี้สามารถช่วยคุณกำหนดเวลาการแชร์คอนเทนต์ของคุณและติดตามการมีส่วนร่วมของโพสต์ของคุณ

หากคุณต้องการเผยแพร่คอนเทนต์ของคุณออกไปเป็นจำนวนมาก คุณอาจพิจารณาใช้การโปรโมตโฆษณา ซึ่งจะช่วยให้คุณกำหนดเป้าหมายคอนเทนต์ของคุณไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งสามารถช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการถูกมองว่าเป็นการปั๊มโพสต์ได้

ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับบางประการในการหลีกเลี่ยงการถูกมองว่าเป็นการปั๊มโพสต์:

  • สร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพสูงและเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ
  • แชร์คอนเทนต์ของคุณเป็นครั้งคราวเท่านั้น
  • แชร์คอนเทนต์ของคุณไปยังกลุ่มที่เกี่ยวข้อง
  • แชร์คอนเทนต์ของคุณไปยังโปรไฟล์ของคุณของคุณ
  • ใช้เครื่องมือหรือบริการของบุคคลที่สามเพื่อช่วยคุณจัดการการแชร์คอนเทนต์ของคุณ
  • พิจารณาใช้การโปรโมตโฆษณา

สาเหตุที่ Facebook ต้องการให้มีการสร้างคอนเทนต์บนเพจเยอะๆในอดีตนั้น อาจเป็นเพราะ Facebook ต้องการให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาที่หลากหลายและน่าสนใจได้มากขึ้น ซึ่งคอนเทนต์ที่มีคุณภาพสูงและเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายนั้น มีโอกาสที่จะได้รับการแชร์ต่อและมีส่วนร่วมจากผู้ใช้มากกว่าคอนเทนต์ที่มีคุณภาพต่ำหรือไม่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม ในภายหลัง Facebook ได้ตระหนักว่า คอนเทนต์จำนวนมากไม่ได้หมายความว่าจะเป็นคอนเทนต์ที่ดีเสมอไป คอนเทนต์ที่มีคุณภาพต่ำหรือไม่เกี่ยวข้องนั้น มีโอกาสที่จะรบกวนประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้มากกว่า และไม่ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลหรือเนื้อหาที่เป็นประโยชน์

นอกจากนี้ Facebook ยังต้องการลดจำนวนคอนเทนต์ปลอมและคอนเทนต์ที่เป็นการโฆษณาที่เกินจริง ซึ่งคอนเทนต์จำนวนมากนั้น มีโอกาสที่จะเป็นแหล่งที่มาของคอนเทนต์ปลอมและคอนเทนต์ที่เป็นการโฆษณาที่เกินจริง

ด้วยเหตุนี้ Facebook จึงเปลี่ยนอัลกอริทึมในการมองเห็นคอนเทนต์ โดยให้ความสำคัญกับคอนเทนต์ที่มีคุณภาพสูงและเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น และลดความสำคัญของคอนเทนต์จำนวนมากลง

สิ่งที่ถูกต้องที่ควรทำในการเผยแพร่คอนเทนต์บน Facebook ในปัจจุบัน คือ การสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพสูงและเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ จากนั้นจึงแชร์คอนเทนต์ของคุณไปยังกลุ่มและโปรไฟล์ของคุณเป็นครั้งคราวเท่านั้น

หากคุณต้องการเผยแพร่คอนเทนต์ของคุณออกไปเป็นจำนวนมาก คุณอาจพิจารณาใช้การโปรโมตโฆษณา ซึ่งจะช่วยให้คุณกำหนดเป้าหมายคอนเทนต์ของคุณไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงได้

ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับบางประการในการเผยแพร่คอนเทนต์บน Facebook ในปัจจุบัน:

  • สร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพสูงและเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ
  • แชร์คอนเทนต์ของคุณเป็นครั้งคราวเท่านั้น
  • แชร์คอนเทนต์ของคุณไปยังกลุ่มที่เกี่ยวข้อง
  • พิจารณาใช้การโปรโมตโฆษณา
  • สำหรับคำตอบในศูนย์ช่วยเหลือของ Facebook นั้น อาจยังไม่ครอบคลุมประเด็นนี้ เนื่องจากเป็นประเด็นที่ค่อนข้างใหม่ อย่างไรก็ตาม Facebook มีการอัปเดตศูนย์ช่วยเหลืออยู่เป็นประจำ ดังนั้น คุณอาจลองตรวจสอบศูนย์ช่วยเหลืออีกครั้งในอนาคต



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิธีการยื่น อุทธรณ์ สำหรับ Facebook creator ที่ถูกปิดการสร้างรายได้

วิธีการยื่น อุทธรณ์ สำหรับ Facebook creator ที่ถูกปิดการสร้างรายได้ "Kcreated Coach: คลังความรู้สำหรับครีเอเตอร์ ร้านค้า ผู้ให้บริการ ผู้ใช้งาน Facebook และผู้สร้างรายได้" "เทคนิคและคำแนะนำมากมายสำหรับการใช้งาน Facebook อย่างมีประสิทธิภาพ" "เรียนรู้วิธีสร้างคอนเทนต์ โปรโมทธุรกิจ และสร้างรายได้บน Facebook" "Kcreated Coach: แหล่งข้อมูลสำหรับทุกคนบน Facebook" "วิธีการยื่นอุทธรณ์สำหรับ Facebook Creator ที่ถูกปิดการสร้างรายได้" ขั้นตอนก่อนยื่นอุทธรณ์ ตรวจสอบสาเหตุการปิดการสร้างรายได้: ไปที่ "เมนู Creator Studio" คลิก "การสร้างรายได้" ตรวจสอบ "ข้อความแจ้งเตือน" ทำความเข้าใจนโยบายการสร้างรายได้ของ Facebook: ศึกษา "นโยบายการสร้างรายได้สำหรับครีเอเตอร์" ตรวจสอบ "เกณฑ์คุณสมบัติสำหรับการสร้างรายได้" มั่นใจว่าเนื้อหานั้น "ไม่ละเมิดนโยบาย" แก้ไขเนื้อหาที่ละเมิด (ถ้ามี): ลบเนื้อหาที่ละเมิดนโยบาย แก้ไขเนื้อหาให้สอดคล้องกับนโยบาย เตรียมข้อมูลสำหรับยื่นอุทธรณ์: หลักฐานการแก้ไขเนื้อหา คำอธิบายกา...

User ไม่ผ่านเกรณฑ์ ควรตรวจสอบหัวข้อใดบ้าง

1. ข้อมูลบนโปรไฟล์ไม่ถูกต้อง 1.1 ชื่อ:ไม่ตรงกับชื่อจริง/ มีตัวอักษรพิเศษหรือสัญลักษณ์ /ยาวเกิน 60 ตัวอักษร 1.2 รูปภาพ: ไม่แสดงใบหน้าที่ชัดเจน /เป็นรูปภาพบุคคลอื่น /เป็นรูปภาพที่มีข้อความ /โลโก้ /หรือสัญลักษณ์ เป็นรูปภาพที่มีเนื้อหาที่รุนแรงหรืออนาจาร 1.3 วันเกิด: /อายุไม่ถึง 13 ปี /ตั้งค่าวันเกิดในอนาคต 2. ละเมิดนโยบายของ Facebook 2.1 การใช้ชื่อปลอม:       แอบอ้างเป็นบุคคลอื่น       ใช้ชื่อที่มีชื่อเสียง 2.2 การโพสต์เนื้อหาที่ไม่เหมาะสม:      เนื้อหาที่รุนแรง      เนื้อหาที่ลามกอนาจาร      เนื้อหาที่แสดงความเกลียดชัง 2.3 ข่าวปลอม      การส่งข้อความที่ไม่เหมาะสม:      ข้อความ Spam      ข้อความที่คุกคาม      ข้อความที่ล่วงละเมิดทางเพศ 3. ปัญหาทางเทคนิค 3.1 ข้อมูลบนโปรไฟล์เสียหาย      ระบบของ Facebook มีข้อผิดพลาด วิธีแก้ไข 1.ตรวจสอบข้อมูลบนโปรไฟล์ให้ถูกต้อง 2.เปลี่ยนรูปภาพโปรไฟล์ให้แสดงใบหน้าที่ชัดเจน 3.ลบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมออก 4.อ่านนโยบาย...

การใส่เสียงเพลง บน Reels

"Kcreated Coach: คลังความรู้สำหรับครีเอเตอร์ ร้านค้า ผู้ให้บริการ ผู้ใช้งาน Facebook และผู้สร้างรายได้" "เทคนิคและคำแนะนำมากมายสำหรับการใช้งาน Facebook อย่างมีประสิทธิภาพ" "เรียนรู้วิธีสร้างคอนเทนต์ โปรโมทธุรกิจ และสร้างรายได้บน Facebook" "Kcreated Coach: แหล่งข้อมูลสำหรับทุกคนบน Facebook" การใส่เสียงเพลงบน Facebook reels  กฎใหม่เดือนมีนาคม 2567 สำหรับ creator บน facebook ห้ามใช้เสียงเพลงในการทำสื่อ content reels  สำหรับ ครีเอเตอร์ ในเดือนมีนาคม 2567 นี้ มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายเกี่ยวกับการใช้เสียงเพลงใน Reels ดังนี้: 1. ห้ามใช้เพลงที่มีลิขสิทธิ์ ห้ามใช้เพลงที่มีลิขสิทธิ์ใน Reels ของคุณ ทั้งหมด ไม่ว่าจะใช้ทั้งเพลง ตัดต่อบางส่วน หรือใช้เป็นเสียงประกอบ ห้ามใช้เพลงที่มีลิขสิทธิ์ แม้จะแปลงเสียง ใส่เอฟเฟค หรือร้องใหม่ก็ตาม ห้ามใช้เพลงที่มีลิขสิทธิ์ แม้จะใส่เครดิตผู้สร้างเพลงก็ตาม 2. กรณีพิเศษ อนุญาตให้ใช้เพลงที่มีลิขสิทธิ์ได้ ในกรณีที่คุณเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงนั้นเอง อนุญาตให้ใช้เพลงที่มีลิขสิทธิ์ได้ ในกรณีที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงอย่างเป...