"Kcreated Coach: คลังความรู้สำหรับครีเอเตอร์ ร้านค้า ผู้ให้บริการ ผู้ใช้งาน Facebook และผู้สร้างรายได้" "เทคนิคและคำแนะนำมากมายสำหรับการใช้งาน Facebook อย่างมีประสิทธิภาพ" "เรียนรู้วิธีสร้างคอนเทนต์ โปรโมทธุรกิจ และสร้างรายได้บน Facebook" "Kcreated Coach: แหล่งข้อมูลสำหรับทุกคนบน Facebook" 5 วิธีการยืนยันตัวตน บน ทางรัฐ "โครงการดิจิทัลวอเลท" อัพเดทล่าสุด กค.67 ธียืนยันตัวตนสำหรับแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" เพื่อเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอเลท มีหลายช่องทางที่สะดวกและง่ายดายสำหรับการยืนยันตัวตนบนแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" ดังนี้: 1. ผ่านแอปพลิเคชัน D.DOPA: ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนใช้งานแอป D.DOPA ไว้แล้ว สามารถยืนยันตัวตนผ่านแอป "ทางรัฐ" ได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องดำเนินการเพิ่มเติม เพียงกด "เข้าสู่ระบบด้วย D.DOPA" เท่านั้น 2. สแกนบัตรประชาชนและใบหน้า: ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" บนมือถือ เปิดแอปและเลือก "สมัครสมาชิก" เลือก "สมัครด้วยบัตรประชาชน" ศึกษาเงื่อนไขและกดยอมรับ สแกนบัตรประชา...
อัพเดทข้อมูล สำหรับครีเอเตอร์ facebook reels มีอะไรให้ปฎิบัติหรือ มีเงื่อนไขอะไรเพิ่มเติม ปี 2024
ในเดือนมกราคม 2567 การสร้างรายได้บน Facebook ยังคงเป็นช่องทางที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจทุกขนาด ช่องทางการสร้างรายได้หลักบน Facebook ได้แก่
โฆษณา ยังคงเป็นช่องทางการสร้างรายได้หลักบน Facebook ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านโฆษณาบน Facebook มีหลายรูปแบบโฆษณาให้เลือก เช่น โฆษณารูปภาพ วิดีโอ โฆษณาแคมเปญ โฆษณาไดนามิก เป็นต้น
ฟีเจอร์เสริม Facebook ยังมีฟีเจอร์เสริมที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ เช่น ร้านค้าออนไลน์ (Facebook Shop) ไลฟ์สตรีม (Facebook Live) เพจ (Facebook Page) เป็นต้น
สำหรับธุรกิจในประเทศไทย ช่องทางการสร้างรายได้บน Facebook ที่เป็นที่นิยม ได้แก่
โฆษณา ธุรกิจในประเทศไทยนิยมใช้โฆษณาบน Facebook เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นยอดขาย โดยเน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนไทย
ร้านค้าออนไลน์ ธุรกิจในประเทศไทยเริ่มหันมาขายสินค้าออนไลน์มากขึ้น โดยใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ร้านค้าออนไลน์ของ Facebook
ไลฟ์สตรีม ธุรกิจในประเทศไทยนิยมใช้ไลฟ์สตรีมเพื่อแนะนำสินค้าและบริการ รวมถึงสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า
สำหรับแนวโน้มการสร้างรายได้บน Facebook ในปี 2567 คาดว่าจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจควรให้ความสำคัญกับการทำการตลาดบน Facebook เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างรายได้ให้กับธุรกิจได้
ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับบางประการในการสร้างรายได้บน Facebook
- เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของคุณก่อนเริ่มสร้างโฆษณาหรือใช้ฟีเจอร์เสริมบน Facebook คุณสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายของคุณได้จาก Facebook Insights
- สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ เนื้อหาที่มีคุณภาพจะช่วยดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายและกระตุ้นให้พวกเขามีส่วนร่วมกับธุรกิจของคุณ
- วัดผลประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญคือต้องวัดผลประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาหรือฟีเจอร์เสริมบน Facebook เพื่อให้คุณสามารถปรับปรุงแคมเปญให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- หากคุณกำลังมองหาช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ การสร้างรายได้บน Facebook ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ อย่าลืมศึกษาข้อมูลและวางแผนอย่างรอบคอบ เพื่อให้คุณสามารถประสบความสำเร็จในการสร้างรายได้บน Facebook ได้
สำหรับรายได้ในส่วนที่ครีเอเตอร์จะได้รับ
ในปัจจุบัน ครีเอเตอร์บนเฟสบุ๊ค สามารถรับรายได้จากช่องทางหลัก ๆ ดังนี้
โปรแกรมพาร์ทเนอร์ (Partner Program)
โปรแกรมพาร์ทเนอร์เป็นโปรแกรมที่เฟสบุ๊คมอบให้แก่ครีเอเตอร์ที่มีผู้ติดตามและมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์ในระดับหนึ่ง โดยครีเอเตอร์ที่เข้าร่วมโปรแกรมพาร์ทเนอร์จะได้รับรายได้จากการโฆษณาที่แสดงบนคอนเทนต์ของตน โดยอัตราค่าโฆษณาจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเภทของคอนเทนต์ จำนวนผู้ชม และอัตราการมีส่วนร่วม
ฟีเจอร์ Super Thanks
ฟีเจอร์ Super Thanks เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้แฟน ๆ สามารถสนับสนุนครีเอเตอร์ผ่านการบริจาคเงินสด โดยแฟน ๆ สามารถเลือกบริจาคเงินสดในจำนวนต่าง ๆ ได้ตามต้องการ ซึ่งครีเอเตอร์จะได้รับเงินบริจาคเต็มจำนวน
ฟีเจอร์ Super Chat
ฟีเจอร์ Super Chat เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้แฟน ๆ สามารถส่งข้อความที่โดดเด่นบนไลฟ์สตรีม โดยแฟน ๆ สามารถเลือกบริจาคเงินสดในจำนวนต่าง ๆ ได้ตามต้องการ ซึ่งครีเอเตอร์จะได้รับเงินบริจาคเต็มจำนวน
ฟีเจอร์ Facebook Stars
ฟีเจอร์ Facebook Stars เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้แฟน ๆ สามารถส่งไอคอนดาวให้กับครีเอเตอร์บนไลฟ์สตรีม โดยแฟน ๆ สามารถเลือกซื้อไอคอนดาวในจำนวนต่าง ๆ ได้ตามต้องการ ซึ่งครีเอเตอร์จะได้รับเงินสดจากการขายไอคอนดาว
นอกจากนี้ ครีเอเตอร์บนเฟสบุ๊คยังสามารถรับรายได้จากช่องทางอื่น ๆ เช่น การขายสินค้าผ่านเฟสบุ๊คเพจ การสมัครรับสมาชิกเฟสบุ๊ค และการสร้างคอนเทนต์ให้กับแบรนด์ต่าง ๆ
สำหรับอัตราค่าโฆษณาบนเฟสบุ๊คในปัจจุบัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเภทของคอนเทนต์ จำนวนผู้ชม และอัตราการมีส่วนร่วม โดยอัตราค่าโฆษณาโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 10-20 บาทต่อ 1,000 วิว อย่างไรก็ตาม อัตราค่าโฆษณาอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความสนใจของผู้ชม และช่วงเวลาที่โฆษณาแสดง
สำหรับรายได้จากการบริจาคผ่านฟีเจอร์ Super Thanks, Super Chat และ Facebook Stars นั้น ครีเอเตอร์จะได้รับเงินเต็มจำนวน โดยไม่มีหักเปอร์เซ็นต์ใด ๆ
สำหรับรายได้จากการขายสินค้าผ่านเฟสบุ๊คเพจ ครีเอเตอร์จะได้รับเงินเต็มจำนวนจากการขายสินค้า โดยไม่มีหักเปอร์เซ็นต์ใด ๆ
สำหรับรายได้จากการสมัครรับสมาชิกเฟสบุ๊ค ครีเอเตอร์จะได้รับเงินจากค่าสมาชิกรายเดือน โดยอัตราค่าสมาชิกจะขึ้นอยู่กับครีเอเตอร์แต่ละราย
สำหรับรายได้จากการสร้างคอนเทนต์ให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ครีเอเตอร์จะได้รับเงินตามตกลงกับแบรนด์นั้น ๆ
โดยรวมแล้ว รายได้ของครีเอเตอร์บนเฟสบุ๊คจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเภทของคอนเทนต์ จำนวนผู้ชม และอัตราการมีส่วนร่วม โดยครีเอเตอร์ที่มีคอนเทนต์ที่มีคุณภาพและได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก จะสามารถได้รับรายได้ที่สูงขึ้น
โฆษณาที่วางบนคอนเทนของครีเอเตอร์บนเฟสบุ๊คในปัจจุบัน มี 2 ประเภทหลัก ๆ คือ
โฆษณาแบบวิดีโอ (In-stream video ads) เป็นโฆษณาที่แสดงก่อน ในระหว่าง หรือหลังวิดีโอของครีเอเตอร์ โดยผู้ชมสามารถข้ามโฆษณาได้หลังจากผ่านไป 5 วินาที
โฆษณาแบบแบนเนอร์ (In-feed ads) เป็นโฆษณาที่แสดงบนหน้าฟีดข่าวของผู้ใช้ โดยผู้ชมสามารถคลิกเพื่อดูโฆษณาเพิ่มเติม
สำหรับรายได้จากการดูโฆษณาแบบวิดีโอนั้น ครีเอเตอร์จะได้รับส่วนแบ่งจากราคาที่โฆษณาถูกประมูลซื้อ โดยอัตราส่วนแบ่งจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเภทของคอนเทนต์ จำนวนผู้ชม และอัตราการมีส่วนร่วม โดยอัตราส่วนแบ่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 50%
สำหรับรายได้จากการดูโฆษณาแบบแบนเนอร์นั้น ครีเอเตอร์จะได้รับส่วนแบ่งจากจำนวนครั้งที่โฆษณาถูกคลิก โดยอัตราส่วนแบ่งจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเภทของคอนเทนต์ จำนวนผู้ชม และอัตราการมีส่วนร่วม โดยอัตราส่วนแบ่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 5-10%
นอกจากนี้ รายได้จากการดูโฆษณายังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความสนใจของผู้ชม และช่วงเวลาที่โฆษณาแสดง โดยครีเอเตอร์ที่มีคอนเทนต์ที่ตรงกับความสนใจของผู้ชม และแสดงโฆษณาในช่วงเวลาที่เหมาะสม จะสามารถได้รับรายได้ที่สูงขึ้น
สำหรับการเปลี่ยนแปลงการรับรายได้จากการดูโฆษณาบนเฟสบุ๊คนั้น เฟสบุ๊คได้ประกาศว่าจะเพิ่มส่วนแบ่งรายได้ให้กับครีเอเตอร์จากโฆษณาแบบวิดีโอ โดยอัตราส่วนแบ่งใหม่จะอยู่ที่ 60% ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ครีเอเตอร์ได้รับรายได้มากขึ้นจากโฆษณาที่แสดงบนคอนเทนต์ของตน
รายได้จากการดูโฆษณาบนเฟสบุ๊คนั้น จะขึ้นอยู่กับประเภทของโฆษณา โดยโฆษณาแบบวิดีโอนั้น ครีเอเตอร์จะได้รับส่วนแบ่งจากราคาที่โฆษณาถูกประมูลซื้อ โดยผู้ชมไม่จำเป็นต้องคลิกเข้าชมโฆษณาก็ได้
สำหรับโฆษณาแบบแบนเนอร์นั้น ครีเอเตอร์จะได้รับส่วนแบ่งจากจำนวนครั้งที่โฆษณาถูกคลิก โดยผู้ชมจะต้องคลิกเข้าชมโฆษณาจึงจะมีสิทธิ์ได้รับส่วนแบ่ง
ดังนั้น คำตอบที่ถูกต้องคือ ไม่ได้ต้องมีการคลิกเข้าชมโฆษณาถึงจะมีสิทธิ์รับส่วนแบ่ง ยกเว้นโฆษณาแบบแบนเนอร์
ความคิดเห็น